ประเทศญี่ปุ่นมีลักษณะเป็นหมู่เกาะซึ่งมีจำนวนมากกว่า
3,000
เกาะวางตัวอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกทางตะวันออกของทวีปเอเชีย
เกาะที่สำคัญเรียงจากเหนือไปใต้ได้แก่ฮกไกโด ฮนชู ชิโกกุ และคีวชู
นอกจากนี้ยังมีหมู่เกาะริวกิวทางตอนใต้ของเกาะคีวชู
ซึ่งเกาะทั้งหมดนี้เรียกรวมกันว่าหมู่เกาะญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นถูกล้อมรอบด้วยทะเลทุกด้าน ได้แก่ทะเลโอค็อตสค์ทางเหนือ
ทะเลญี่ปุ่นทางตะวันตก ทะเลจีนตะวันออกทางตะวันตกเฉียงใต้ ทะเลฟิลิปปินส์ทางใต้
และมหาสมุทรแปซิฟิกทางตะวันออก พื้นที่ประมาณร้อยละ 70
เป็นภูเขา ซึ่งไม่สามารถใช้เป็นที่อยู่อาศัยหรือทำการเพาะปลูกได้
เพราะมีลักษณะสูงชันและมีโอกาสที่จะเกิดดินถล่มจากแผ่นดินไหวหรือฝนที่ตกหนัก
ประชากรญี่ปุ่นส่วนใหญ่จึงต้องอาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งอย่างหนาแน่น และทำให้เมืองสำคัญในญี่ปุ่นมีประชากรหนาแน่นมาก ใน พ.ศ. 2548
ญี่ปุ่นมีป่าไม้ร้อยละ 66.4 พื้นที่ทางการเกษตรร้อยละ 12.6
อาคารร้อยละ 4.9 พื้นน้ำร้อยละ 3.5
ถนนร้อยละ 3.5 และอื่น ๆ ร้อยละ 9
ประเทศญี่ปุ่นตั้งอยู่ในวงแหวนแห่งไฟ
บริเวณรอยต่อระหว่างแผ่นเปลือกโลก 3 แผ่น ทำให้เกิดแผ่นดินไหวความรุนแรงต่ำบ่อย
ๆ และยังมีแผ่นดินไหวความรุนแรงสูงที่ทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงหลายครั้งในศตวรรษที่ผ่านมา เช่นเหตุการณ์แผ่นดินไหวใหญ่ฮันชิน-อะวะจิ ใน
พ.ศ. 2537 และแผ่นดินไหวชูเอะสึจังหวัดนีงาตะ ใน พ.ศ. 2547
เป็นต้น นอกจากนี้ การที่ญี่ปุ่นตั้งอยู่ในบริเวณวงแหวนแห่งไฟ
ยังทำให้ญี่ปุ่นมีบ่อน้ำพุร้อนจำนวนมากทั่วประเทศ
ซึ่งส่วนใหญ่ถูกพัฒนาให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ภูเขาฟูจิซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นก็เป็นภูเขาไฟ
ภูมิอากาศ
ญี่ปุ่นมีภูมิอากาศแบบเขตอบอุ่น
ฤดูใบไม้ผลิ (ฮารุ) มีอากาศที่สบาย น่าอยู่อาศัย ต้นไม้เริ่มผลิดอกออกใบ
ในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิมีดอกซากุระบานสะพรั่ง
ไล่จากคิวชูไปจนถึงฮอกไกโดเป็นที่สุดท้าย ฤดูร้อน (นัตซึ)
อากาศค่อนข้างร้อนแบบเหนอะหนะ ฤดูใบไม้ร่วง (อะกิ) อากาศแห้งและเย็นสบาย
ใบไม้กลายเป็นสีเหลืองทอง ในขณะที่ฤดูหนาว (ฟุยุ) อากาศค่อนข้างหนาวเย็น
แต่เนื่องจากพื้นที่ของประเทศที่ทอดเป็นแนวยาวกว่า
3,000 กิโลเมตร ทำให้ภูมิอากาศของแต่ละท้องถิ่น
มีความแตกต่างกันออกไป ทางเหนือของญี่ปุ่น ในแถบฮอกไกโดมีอากาศหนาวเย็นคล้ายยุโรป
มีหิมะตกหนักในฤดูหนาว ด้วยลมหนาวจากไซบีเรีย
ได้พัดเอาความชื้นจากทะเลญี่ปุ่นเข้ามา ในขณะที่พื้นที่ทางใต้ของคิวชูและโอกินาวา
มีสภาพอากาศค่อนไปทางเขตร้อนชื้น และมีฝนตกชุกในฤดูฝน
ฤดูกาลแบ่งออกเป็น 4
ฤดู คือ
·
ฤดูหนาว ประมาณเดือนธันวาคม -
กุมภาพันธ์
·
ฤดูใบไม้ผลิ ประมาณเดือนมีนาคม -
พฤษภาคม
·
ฤดูร้อน ประมาณเดือนมิถุนายน - สิงหาคม
·
ฤดูใบไม้ร่วง ประมาณเดือนกันยายน -
พฤศจิกายน
·
ช่วงที่มีฝนตกมากที่สุดอยู่ในเดือนมิถุนายน
ไปจนถึงกลางเดือนกรกฎาคม
·
ช่วงที่มีพายุไต้ฝุ่นจะอยู่ในช่วงเดือนสิงหาคม
- กันยายน
·
ช่วงที่ร้อนที่สุดคือเดือนสิงหาคม
หมู่เกาะญี่ปุ่นวางตัวยาวในแนวเหนือใต้
จึงทำให้มีลักษณะภูมิอากาศแตกต่างกันมาก
ประเทศญี่ปุ่นสามารถแบ่งเขตภูมิอากาศออกเป็น 6
เขต คือ
ฮกไกโด:
พื้นที่ตอนเหนือสุดของประเทศมีสภาพอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี
แม้จะมีหยาดน้ำฟ้าไม่มาก แต่ในฤดูหนาวก็มีหิมะปกคลุมทั่วทั้งเกาะ
ทะเลญี่ปุ่น:
ตั้งอยู่ชายฝั่งทะเลทางตะวันตกของเกาะฮนชู
ลมตะวันตกเฉียงเหนือที่พัดผ่านในช่วงฤดูหนาวทำให้มีหิมะตกมาก
ในช่วงฤดูร้อนอากาศมักจะเย็นกว่าฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก
แม้ว่าบางครั้งจะเกิดปรากฏการณ์เฟห์นที่ทำให้อากาศร้อนมากผิดปกติ
ที่สูงตอนกลาง:
อุณหภูมิระหว่างฤดูร้อนและฤดูหนาวและระหว่างกลางวันและกลางคืนมีความแตกต่างมาก
ทะเลเซะโตะ:
ภูเขาบริเวณจูโงะกุและชิโกะกุช่วยป้องกันบริเวณทะเลเซะโตะจากลมฤดูต่าง ๆ
ทำให้บริเวณนี้มีอากาศอบอุ่นและมีฝนตกน้อยตลอดทั้งปี
ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก:
ตั้งอยู่ชายฝั่งมหาสมุทรทางตะวันออกของประเทศ
ในฤดูหนาวมีอากาศที่หนาวเย็นแต่ไม่ค่อยมีหิมะตก
ในฤดูร้อนมีอากาศร้อนและชื้นเพราะลมตะวันออกเฉียงใต้
หมู่เกาะตะวันตกเฉียงใต้:
หมู่เกาะริวกิวมีอุณหภูมิกึ่งเขตร้อน คืออากาศอุ่นในฤดูหนาวและร้อนในฤดูร้อน
มีฝนตกมากและมีไต้ฝุ่นผ่านมาในช่วงเปลี่ยนฤดู
ฤดูฝนหลักเริ่มต้นขึ้นในต้นเดือนพฤษภาคมที่โอะกินะวะ
และจึงค่อย ๆไต่ขึ้นไปจนถึงฮกไกโดในปลายเดือนกรกฎาคม
บนเกาะฮนชูฤดูฝนจะเริ่มในกลางเดือนของเดือนมิถุนายน มีระยะเวลาประมาณเดือนครึ่ง
และในช่วงปลายฤดูร้อนจนถึงต้นฤดูใบไม้ร่วงมักมีไต้ฝุ่นพัดผ่าน
โดยเฉลี่ยจะมีไต้ฝุ่นพัดเข้าใกล้ญี่ปุ่นปีละ 11
ลูก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น